ว่าด้วยกระแสของ Net idol, Blogger หรือ Youtuber กำลังมาแรงในบ้านเรา ชนิดที่ว่าบางทีไปซื้อสินค้า ก็จะมีคำโฆษณาแปะว่าคนนั้น คนนี้รีวิว บล็อกเกอร์แนะ เนตไอดอลนำ…แต่เอ๊ะ การจะก้าวไปสู่จุดนี้ ปกติเค้าเริ่มกันยังไง? ได้ของมารีวิวยังไง? อยากรู้ จงอ่าน! เรามีของดีมาแนะนำ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับคำ แต่ละคำให้ถูกต้องก่อน เราเชื่อว่ามีหลายคนยังเข้าใจแต่ละคำนี้ผิด
Net idol คือคนที่มีจำนวนผู้ติดตามเยอะมากกกกกก ไม่ว่าจะทำอะไรบน Internet มีการส่งอิทธิพลต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสังคมเสมอ คือมีคนชอบ ยกให้เป็นที่ชื่นชม ไอดอล และมักจะมีพฤติกรรมเลียนแบบไอดอลด้วย ตัวอย่างก็บรรดาสาวๆ ยอดติดตามเยอะ พิมฐา อะไรทำนองนั้นค่ะ
Blogger ตรงตัวเลยค่ะ นักเขียนบล็อก คือคนชอบเขียน ชอบแชร์ ชอบแลกเปลี่ยน ชอบเล่า เป็นนักบันทึกที่ชอบบันทึกสิ่งที่ตัวเองเจอมา หรือได้มา ลงในรูปแบบของบล็อก ประหนึ่งเป็นไดอารี่ออนไลน์ที่ไม่ส่วนตัวนัก เพราะเข้าถึงได้โดยสาธารณะ เมื่อสะสมเนื้อหา และแฟนคลับมาได้สักระยะ จึงเริ่มมีอิทธิพลเช่นเดียวกับ Net Idol ค่ะ
ตัวอย่างความบล็อกเกอร์…ก็ได้แก่ Tuniez83, Feonalita และ Mhunoiii เป็นต้น
Vlogger / Youtuber แบบเดียวกับ Blogger แต่แค่พวกนี้นิยมสร้างงานในรูปแบบวิดีโอแทน และเว็บอัพโหลดยอดนิยมก็จะเป็น Youtube หรือ Vimeo อะไรทำนองนี้ค่ะ เช่นบ้านเราก็จะมี คุณโมเมพาเพลิน และ แพรี่พาย ส่วนต่างประเทศก็จะเป็น Micheal Phan, Glam & Gore หรือ Wengie และล่าสุดสาวมาแรงจากเกาหลี Pony นั่นเอง
แต่สิ่งที่ทั้ง 3 สิ่งนี้ สามารถนำเสนอออกมาในรูปแบบเดียวกันได้คือ การเป็นผู้มีอิทธิพลบน Social Media หรือ Social influencer และ Reviewer (นักรีวิว) นั่นเอง
งงมะ….ไม่งงเนอะ
และถ้าอยากเป็น Reviewer เริ่มต้นอย่างไร?
ตอบสั้นๆ ง่ายๆ ก็เขียน และสร้างผลงานค่ะ!
ดูกำปั้นทุบดินไปใช่ไหมคะ? แน่นอนค่ะ ไม่มีการเดินทางไหน ไม่เริ่มจาก “ก้าวแรก” การจะเข้าไปมีอิทธิพลต่อบุคคลอื่นได้นั้น เราจำเป็นต้องมีจุดยืนที่มั่นคง มีฐานที่แข็งแกร่ง ด้วยเอกลักษณ์ของเราเอง จะเป็นด้วยเรื่องความสวย นำเสนอเก่ง ฯลฯ อะไรก็ตามแต่ ต้องหาสิ่งที่ตัวเองเป็นให้เจอ ยึดให้มั่น และสำคัญสุด “ดำเนินตามหลักที่เรายึด”
เพราะงั้นหาคุณอยากเป็นบล็อกเกอร์…ไม่มีทางลัดค่ะ มีแค่การเริ่มต้นสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาสักสิ่งเท่านั้น
แต่โชคดีมากกกกกกกกก! ที่ตอนนี้การตลาดที่ต่างๆ ก็เริ่มเข้ามาจับกระแสสังคมออนไลน์มากขึ้น และมีช่องทางให้เราได้แจ้งเกิดมากขึ้น และแน่นอน…เว็บที่เราจะมารีวิวให้ฟังตรงยี้ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เราได้ในสิ่งที่เราอยากได้ “ถ้าเราคือผู้ถูกเลือก”
หากมีคนติดตามอ่านบล็อกเรามาสักพัก…ปีนี้คุณจะเริ่มเห็นป้ายอันเล็กๆ อยู่ท้ายบทความของบล็อกเราบางโพสต์ เป็นป้ายสีน้ำเงิน เขียนว่า REVU นั่นแหละค่ะ กุญแจสู่ความ (ได้ของ) ฟรี
REVU หรือ revu.net เป็นเว็บแคมเปญจากแดนกิมจิ ลักษณ์การทำงานคล้ายๆ Change.org หรือ Kickstarter.com ของฝรั่ง แต่เป็นตัวสร้างแคมเปญระหว่าง Brand สินค้า กับตัว Reviewer กล่าวคือเหมือนล่าม ที่ช่วยสื่อสารระหว่างแบรนด์ และบล็อกเกอร์ค่ะ โดยการสร้างแคมเปญที่กำหนดข้อตกลงของการรับสินค้าขึ้นมา ให้รีวิวเวอร์ได้เลือกรับสินค้าเพื่อเขียนรีวิว และส่งงานตามกำหนด/ข้อตกลง
คอนเซ็ปของเค้าค่ะ สามขั้นตอนง่ายๆ ลงทะเบียน -> เลือกแคมเปญที่เราสนใจ -> รอรับสินค้า/บริการ
เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยย่นระยะการต่อรองระหว่างตัวแบรนด์เจ้าของสินค้า/บริการ และตัวนักรีวิว และช่วยลดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อกันได้ดีทีเดียว ฉะนั้นจึงเหมาะสำหรับบล็อกเกอร์ที่ต้องการงานไปรีวิว แต่กังวลเรื่องข้อตกลง และระยะเวลาที่อาจจะไม่แน่นอน รวมถึงเรื่องระบบการจัดส่งสินค้าหรือการรับบริการ เพราะทางแบรนด์ที่เข้ามาเปิดแคมเปญให้เราเลือกนั้น จะต้องใส่ระยะเวลาเพื่อแสดงเป็น Timeline และข้อตกลง (Must do) ให้ชัดเจน
ภายในเว็บ จะแบ่งหมวดแคมเปญไว้ใหญ่ๆ 2 หมวด คือ หมวด บริการ (Service) และ สินค้า (Product) แล้วจึงแบ่งหมวดย่อยลงไปอีกเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาสินค้า และบริการที่เราสนใจ หรือมีความถนัดพิเศษ หรือหากยังไม่สะดวก ก็สามารถพิมพ์คำที่ต้องการเพื่อค้นหาได้ในช่อง search
เริ่มต้นเป็นสมาชิกกับ REVU
หากว่าคุณอยากเริ่มรีวิว หลังจากที่มีบล็อก มีเฟสบุ๊ค และอินสตราแกรมแล้ว ให้เข้ามาที่ https://th.revu.net คลิกปุ่ม ที่อยู่มุมด้านบนขวาเพื่อสมัครเลยค่ะ หรือจะลองอ่าน Service Guide ดูลักษณะการใช้งานก่อนก็ได้
เมื่อคลิก sign up แล้ว เราจะเจอกับหน้าต่างนี้ค่ะ ให้กรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน
*E-mail นี้จะเป็นอีเมลหลักที่เราเชื่อมต่อกับ Revu ฉะนั้นเมลจะต้องสามารถใช้ได้จริง ติดต่อได้ เพราะหากไม่แล้วจะถือว่าสมัครสมาชิกไม่สำเร็จด้วยค่ะ
เมื่อกรอกข้อมูลแล้ว จะมี e-mail ส่งเข้าไปตามเมลที่เราสมัครไว้ ให้รีบเปิดกล่องเมล (Inbox) หากไม่เจอ ให้ค้นในกล่องขยะ หรือกล่อง spam
ถ้าเข้าไปแล้ว เจอเมลหัวข้อแบบนี้ ส่งจาก noreply@revu.net เช่นนี้ แสดงว่าเป็นเมลอัตโนมัติ ไม่ต้องไปกดตอบค่ะ ให้คลิกลิ้งเพื่อยืนยันตัวตน และลิ้งจะพาเราไปสู่หน้าที่แจ้งว่า “ยืนยันตัวตนผ่านอีเมลสำเร็จ” (หรืออะไรเทือกๆนี้) หากทำการยืนยันอีเมลสำเร็จ ลิ้งจะพาเราเข้าไปที่หน้าเว็บหลักภายใน 10-20 วินาที
*ตรงนี้เราไม่ค่อยมั่นใจนักว่าจะลิ้งไปหน้า Homepage หรือ MYPAGE แต่ที่แน่ๆ เราจะแนะนำต่อเรื่องการตั้งค่าบัญชีเลยแล้วกัน เพราะอย่างไรก็ควรทำก่อน*
สมัครแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อน! กรอกข้อมูลก่อนเดี๋ยวนึงสิจ๊ะ!
สมัครได้แล้ว หลายๆคนคงอยากจะพุ่งไปกดแคมเปญกันแล้วล่ะซิ แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าใจเร็วด่วนได้ ยอมเสียเวลาทำข้อมูลตัวเองก่อน ข้อมูลเหล่านี้เหมือนประวัติที่ทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเช็คเพื่อทำการคัดเลือกตอนเราเข้าร่วมแคมเปญด้วย ฉะนั้น…อย่าปล่อยให้โล่ง ทำให้เรียบร้อย แล้วการใช้งานเว็บจะง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
ในกรณีที่ลิ้งไม่ได้พาเราไปหน้า MYPAGE หรือหน้าโปรไฟล์ของเรา ให้คลิกที่ไอคอนรูปคน หรือชื่อเล่นเรา จะเห็นเมนูโผล่ออกมา ให้เลือกไปที่ Settings ค่ะ
แต่ถ้าได้ลิ้งไปที่ MYPAGE ให้เลือกแถบ Setting ที่มีไอคอนรูปเกียร์
เราก็จะเจอกับความสวย เอ้ย…หน้าตาของข้อมูลต่างๆ รวมถึงช่องทางหากินของเราค่ะ เดี๋ยวอธิบายเป็นส่วนๆ ล่ะกันเนอะ จะได้ไม่งงกันนะคะ
รูปข้างล่างจะเป็นภาพเต็ม หากดูแล้วมีขนาดเล็ก มองไม่ชัด >>กดเพื่อดูรูปใหญ่ตรงนี้ค่ะ<<
กรอกให้ครบ โดยเฉพาะส่วนของชื่อจริง และที่อยู่ พร้อมตรวจสอบความถูกต้อง แต่ยัง…ยังไม่จบนะ ยังขาดส่วนสำคัญอีกส่วน คือสิ่งที่จะทำให้ตัวเราน่าสนใจมากขึ้น ส่วนของ Social Media นั่นเอง
ในส่วนของ Social Media นั้น หลักๆจะเป็นการลิ้งข้อมูลของบล็อก, Facebook และ Instagram เป็นหลักค่ะ ซึ่งเป็นช่องทางในการกระจายงานของเรานั่นเอง โดยส่วนหลักๆที่ทาง Revu ต้องการจากเราคือ Blog กับ Facebook ค่ะ สองอย่างนี้คือต้องมี
ตรงนี้ถ้าทำสำเร็จ นางจะขึ้นชื่อบล็อกของเราแบบโปรไฟล์รูปแรกของเรานะคะ ส่วนของ Facebook ง่ายกว่าค่ะ เพราะหาก log in ค้างไว้แล้ว เราคลิกที่ปุ่ม Connect Facebook ตัวเว็บจะทำการจับคู่ และแสดงผลหน้าเฟสของเราขึ้นมา ซึ่งจะประกอบด้วย My Timeline คือไทม์ไลน์เฟซของเรา และหากมีเพจ…ก็จะขึ้นเพจต่างๆที่เราดูแลอยู่มาด้วย ตรงนี้ให้เราคลิกเลือกเลยว่าจะให้แชร์บล็อกหรืองานของเราไปที่ไหน ไทม์ไลน์ของเฟสส่วนตัว หรือเพจ ส่วนมากก็จะเลือกเพจกันนะคะ
เสร็จแล้วกด Set facebook share target ก็จบปิ๊ง!
ยัง…ยังไม่พ้นเวร พ้นกรรม #ล้อเล่น เอาล่ะค่ะ แล้วก็ถึงเวลาที่เราลอยคอเพื่อสิ่งนี้ การเข้าไปร่วมแคมเปญของสิ่งที่เราสนใจนั่นเอง!
การเข้าร่วมแคมเปญ
บอกเลยว่าถ้าคุณตั้งค่าทุกสิ่งในหน้า MYPAGE ครบแล้ว การกดแคมเปญจะ โคตร ง่ายค่ะ คุณจะเข้าไปเลือกดูที่หน้าแรก หรือ Hamepage เพื่อดูแคมเปญแนะนำ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแคมเปญใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ หรือจะไปกดค้นหาสิ่งที่เราสนใจเลยก็ได้
โดย Thumbnail หรือกล่องย่อส่วนของแคมเปญเนี่ย นะจมีส่วนประกอบหลักๆ นอกจากรูปของสินค้า/บริการแล้ว จะประกอบด้วย
ชื่อแคมเปญ : อยู่ถัดจากรูปของสินค้า/บริการ
คีย์เวิร์ดโดยย่อ หรือคำโปรย
ข้อมูลการจัดส่ง : Delivery = ส่งให้ถึงบ้าน
ไอคอน ช่องทางส่งงาน
Applied (จำนวนคนที่เข้าร่วมแคมเปญปัจจุบัน)
Remaining [จำนวนวันที่เหลือ] Days
เราสามารถเข้าไปคลิกดูรายละเอียดแคมเปญเต็มๆได้เลย และเมื่อคลิปเข้าไปแล้ว เราจะเจอกับหน้าตารายละเอียดตามนี้ (อ่ะ แม่จะสอนอย่างละเอียด ตั้งใจอ่านนะลูก)
Apply Period จะเป็นช่วงเวลาของการเปิดแคมเปญ และคัดเลือก Reviewer ระยะเวลาตรงนี้แล้วแต่แคมเปญนะคะ บางอันก็เปิดรับนาน บางอันก็สั้น ฉะนั้น…เข้ามาส่องทุกวันสิ เผื่อเจออะไรดีๆ 55 วันสิ้นสุด apply period คือวันที่ลงไว้ และจะมีการประกาศผู้ได้รับเลือกและส่งของหลังจากวันปิดรับอีกราวๆ 3 วันไม่เกินนี้ค่ะ
และจะเข้าสู่ระยะดอง เอ้ย! ทำงานของเราค่ะ เพื่อเข้ามาส่งงานตามกำหนดวันที่ ฉะนั้นตอนจะกดเข้าแคมเปญใดๆ ลองดูด้วยนะว่าช่วงนั้นทำงานทันไหม ไม่ทันแล้วจะหาว่าไม่เตือน
ถัดจากระยะเวลาส่งงานแล้ว จะเป็นช่วงเวลาที่ Brand และ REVU เข้ามาตรวจเช็คงานของคนที่ได้รับเลือก เพื่อทำการเลือก Best Reviewer อันเป็นตำแหน่งสุดยอดรีวิวในแคมเปญนั้นๆ เพื่อเป็นศรีและกำลังใจแก่คนตั้งใจทำงาน อีกทั้งคนที่ได้ Best Reviewer บ่อยๆ นอกจากได้รับรางวัลพิเศษแล้ว จะมีโอกาสได้รับพิจารณาเลือกเป็นรีวิวเวอร์ได้มากขึ้นอีกในแคมเปญหน้าๆ
เมื่อดูข้อมูลเบื้องต้นแล้ว พิจารณาด้วยความใจเร็วแล้วว่าต้องการสิ่งนี้จริงๆ สามารถกดปุ่ม Click to apply for this Campaign เพื่อกระโดดข้ามข้อกำหนดอื่นๆ ไปที่ช่องลงทะเบียนที่อยู่ ฯลฯ ได้เลย แต่แนะนำว่า…ควรอ่านก่อนกด แล้วชีวิตจะดีกว่าค่ะ มันยังมีข้อกำหนดอื่นๆ นอกจากระยะเวลาและของที่ได้นะ (ไม่มีอะไรฟรีบนโลกนี้ นอกจากแอปเปิ้ลพิษของสโนไวท์ เข้าใจนะ?)
Offer = สิ่งที่รีวิวเวอร์จะได้รับจากแคมเปญนี้ ซึ่งจะระบุจำนวน หรือลักษณะ/ประเภทอย่างชัดเจน
Keyword = คำสำคัญที่เราต้องใช้ในการเขียน เป็นคีย์เวิร์ดในการสร้างเนื้อหา ตรงนี้จะช่วยให้เราไม่โหวงเหวง มีประเด็นในการเขียนด้วย
Must-Do = สิ่งที่ต้องทำ ตามนั้นเลยค่ะ ข้อกำหนดที่เรา “ต้องทำ” และ “ต้องมี” ในตัวผลงานของเรา ซึ่งเมื่อเรากดเข้าร่วมแคมเปญไปแล้ว ถือว่าเรายอมรับในข้อตกลงหรือกติกาตรงนี้แล้ว
ต่อจากตรงนี้ เค้าจะเป็นส่วนภาพข้อมูลสินค้า หรือบริการ ก็จะเป็นพวกรูป PR ต่างๆ แหละค่ะ แล้วจึงมาต่อด้วยส่วนของการกรอกข้อมูลหากเราจะร่วมแคมเปญนี้จริงๆ
ข้อมูลการจัดส่ง ตรงนี้หากทำข้อมูล Profile ใน MYPAGE เรียบร้อยแล้ว แค่คลิกปุ่มม่วงด้านซ้าย Use your default info เท่านั้นระบบจะนำข้อมูลมากรอกให้เอง เรามีหน้าที่เช็คความถูกต้องอีกทีค่ะ
บางแคมเปญ เขาก็อาจจะอยากรู้ไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงานของเราคร่าวๆด้วย เผื่อมีอะไรโดนใจ เขาอยากได้พอดี เราก็ได้ด้วย ฉะนั้น…ตั้งใจทำจุดขายของเราค่ะ คิดไรออก ใส่ไปเลย
ตรง Check นี้สำคัญเหมือนกันนะคะ คือ
เราจะอธิบายเพิ่มเรื่องรูปภาพบนแคมเปญหน้านี้สักนิดค่ะ
อันหมายถึงว่าแคมเปญนี้เราได้กดเข้าร่วมเป็นที่เรียบร้อย โปรดรอคอย ลอยคอรอการคัดเลือกจากกรรมการสักนิด
อันหมายถึงว่า เค้าไม่เอา โอเคนะ เราคงไปกันไม่ได้กับเส้นทางนี้ ไว้รอโอกาสใหม่นะ
แล้วถ้าชอบซ้ำเติมตัวเอง คลิกเข้าไปยำไยดูในแคมเปญ เราจะเจอข้อความตัดบัวแบบเหลือเยื่อใยนิดๆ ประมาณว่างวดนี้ชวด งวดหน้าเอาใหม่เนอะ
แต่ไม่ต้องพยายามพกความริษยาไปส่องดูว่าใครได้บ้าง ช่องใบหน้าผู้ได้รับเลือกจะหายไปจากเราชั่วคราว และจะมองเห็นเฉพาะคนที่ได้รับเลือกด้วยกันเท่านั้น (แบร่ๆ อดเลย)
อันนี้หมายถึงเค้ากำลังเลือกกันอยู่ว่าใครจะอยู่ ใครจะไป
และอย่าใจร้อนคลิกเข้าไปดูในหน้าแคมเปญให้เหนื่อยเปล่า เพราะทาง REVU จะขอให้เราอดทนอีกสักนิดนะ
และเมื่อแคมเปญใดๆของเราก็ตามได้รับคัดเลือก เราจะได้อีเมลแจ้งเตือน 1 ฉบับ และได้ช่องพิเศษเพิ่มขึ้นมาใน MYPAGE แบบนี้ค่ะ
และถ้าแกดองงาน แกจะมีอีกช่องพิเศษงอกขึ้นมาด้วย ใน 1 วันก่อนถึงกำหนดส่งงาน ช่องนั้นสวยกว่าชาวบ้านเลย เพราะจะมีรูปแคมเปญสีแดงเถือก เด้งขึ้นมา พร้อมบอกว่า “Hurry Up!” แปลง่ายๆว่า “อย่าดอง อัพไวๆ”
สวยใช่ไหมล่ะ? นี่รอส่งช้าเพื่อเอารูปนี้มาให้ชมกันค่ะ 55 และจะมีอีเมลแจ้งเตือนส่งมาหาเราด้วย เพื่อกระตุ้นไหดองของเรา รับงานแล้ว ต้องรับผิดชอบส่งงานด้วยนะจ๊ะ
การส่งงานด้วยรูปแบบ Blog
เป็นอะไรที่เราคงได้ทำกันบ่อยที่สุด พื้นฐานที่สุดค่ะ ส่วนมากแคมเปญบน REVU จะต้องการงานในรูปแบบบล็อก หรือวิดีโอแนบกับบล็อก ซึ่งวิธีการส่งงานนั้นไม่ได้ยากเลยค่ะ แค่กลับมาที่หน้าแคมเปญที่เลือกเข้าร่วม เลื่อนลงไปจากข้อมูลรูปภาพ ตอนนี้จะมีช่องนี้ขึ้นมาแทนช่องใส่ที่อยู่ที่เราเคยกรอกตอนเข้าร่วมล่ะ
STEP 1 ขั้นแรกเค้าจะกล่องโค้ดอยู่ Sponsor Code ตัวนี้เราจะต้องนำไปวางในบล็อกที่เราเขียนด้วยนะคะ แล้วโค้ดแต่ละแคมเปญจะต่างกัน ต้องก็อปใหม่ไปแปะของแต่ละอันนะคะ
โดยปกติเราจะกันลืมโดยการไปก็อปมาวางในบล็อกที่ดราฟต์ไว้ก่อน โดยเลือกวางใน html เหมือนเวลาเราจะใส่โค้ดอื่นๆ เช่นภาพ และวิดีโอนั่นแหละค่ะ ถ้าสำเร็จก็จะขึ้นเป็นรูป Banner เล็กๆ ตามตัวอย่าง
STEP 2 หลังจาก Publish บล็อก ใส่โค้ดเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลามาส่งลิ้งบล็อกให้ทาง REVU ค่ะ
ตรง STEP 2 จะเป็นส่วนของการส่งลิ้ง ซึ่งจะมีให้เลือกสองแบบ คือการเลือกโพสต์จากบล็อกที่ลิ้งกับ REVU เอาไว้ ตรงนี้คือสะดวก จะโชว์บล็อกที่เราเพิ่งอัพเดทราวๆ 4-5 อันให้เราเลือกว่าจะส่งอันไหน แล้วคลิก
รอทาง REVU ตรวจสอบ Sponsored Code หากตรวจสอบพบแล้ว จะขึ้นตัวอย่างหน้าบล็อกเราขึ้นมา
หรือถ้าเพิ่งอัพเดทสดๆ ร้อนๆ ระบบของ REVU หาไม่เจอ จะนำลิ้งมาใส่ที่ช่องด้านล่างก็ได้ค่ะ แล้วรอการตรวจสอบเช่นเดิม
เมื่อทาง REVU ตรวจพบโค้ดแล้ว ก็จะมาสู่ STEP 3 การแชร์ Facebook
จะเหมือนเป็นการโพสต์แคบชั่นแบบเดียวกับเวลาเราจะแชร์ผลงานลงบนเฟสนั่นเอง ให้เราใส่แคบชั่นที่ต้องการลงไป กดแชร์บน Facebook แค่นั้นก็ถือว่าเสร็จสิ้นค่ะ
การส่งงานด้วย Facebook Post
มีความแอดวานซ์ขึ้นมาอีกนิด สำหรับงานที่ Brand ต้องการงานแบบ Post Facebook เฉยๆ
ไป copy link ของโพสต์นั้นๆมาจาก Facebook
เห็นช่องเหนือปุ่ม register facebook post ไหม เอาลิ้งวางลงไป โป๊ะ! รอเวทมนตร์
หากร่ายคาถาสำเร็จ มันจะขึ้นภาพของโพสต์เรามาเป็นตัวอย่าง ถ้าถูกต้องแล้วก็กดปุ่ม เท่านี้ก็ถือว่าส่งแล้วเรียบร้อย
การส่งงานเสร็จสิ้น
เมื่อการส่งงานในแคมเปญเสร็จสิ้น เราจะได้รับข้อความขอบคุณแบบนี้กลับมา และเมื่อเลื่อนลงไปด้านล่างตรงส่วนที่เราใส่ข้อมูลตะกี้ จะขึ้นเป็นตัวอย่างโพสต์ของเราขึ้นมาแทน
รวมถึงรายชื่อ Reviewer ด้านล่าง ก็จะโชว์ด้วยว่าใครอัพงานแล้วบ้าง เราสามารถ(แอบ)เข้าไปดูได้ว่าคนอื่นเขียนอะไรได้
เมื่อแคมเปญสิ้นสุดลง เลยระยะส่งงาน ระหว่างนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของแคมเปญและ REVU เข้ามาดูงาน และทำการคัดเลือก Best Reviewer ของแคมเปญ ซึ่งจะเป็นตำแหน่งเพื่อกำลังใจในการสร้างผลงาน เพราะนอกจากจะได้รางวัลแล้ว ยังเป็นการการันตีคุณภาพงานในอนาคต เพราะคนที่ได้ Best Reviewer บ่อยๆ จะมีโอกาสได้รับเลือกในแคมเปญต่อไปมากกว่า
ตัวอย่างบล็อกของเราที่ได้รับจาก REVU (อัพเดทล่าสุด – เก่าสุด)
{Review} Ettusais Herbal UV spray SPF 50+ PA+++ สเปรย์กันแดด กันยุง ที่ใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า!
{Review} De Coco Coconut Body Lotion
{Review} Amon Intensive Whitening Serum
{Mini-Review} Oh my Egg สบู่น้องไข่เพื่อหน้าใสไร้สิว
{Review} THEFACESHOP Character mask
{Review} REMAX Magnet Sports Bluetooth Headset ฟัง+คุยห่างจากมือถือในระยะ 10m.
เรื่องแมวๆไดอะรี่ ภาคแมววิว : รู้ไหม? เค้ามีอาหารคลีนสำหรับแมวด้วยนะ กับ CLEAN CAT FOOD
สังเกตได้เลยว่ามีความหลากหลายมากๆ งานแรกของเราเป็นอาหารแมว ก่อนจะตามมาด้วยหูฟัง และเรื่องสวยๆงามๆ อีกเป็นพรวน ไม่รู้ในภายภาคหน้าจะได้อะไรอีก บางทีมันก็แอบสนุกเวลาลุ้นนะว่าเราจะได้รับคัดเลือกไหม
โดยสรุปแล้ว REVU เหมาะสำหรับ…
- นักสร้างคอนเทนท์ที่ต้องการสินค้าหรือบริการ
- นักสร้างคอนเทนท์ที่ต้องการหาไอเดีย
- นักสร้างคอนเทนท์ที่ไม่ชอบการคุยงานกับ Brand โดยตรง
- นักสร้างคอนเทนท์ที่แสวงหาช่องทางในการแนะนำตนเอง
- Brand ที่อยากมองหาทางเลือกใหม่ในการ PR
- Brand ที่อยากได้งานตรงตามกำหนดเวลา ไม่ดอง ไม่ยำไย
- ฺBrand ที่อยากได้คนมาขายไอเดียช่วยโปรโมตสินค้า/บริการ
- คนอยากลองของใหม่แบบไม่ค่อยเจ็บตัวเอง
- คนอยากได้ของฟรี…(ก็มันจริง หรือจะเถียง)
ส่วนตัวเรามองว่ามันเอื้อกับคนเขียนบล็อกในส่วนที่ทำให้เราได้เลือกเองด้วย ได้รับทราบข้อตกลงอย่างชัดเจนจากอีกฝ่ายด้วย ต่อรองกันครั้งเดียวจบ มีระยะเวลาและคีย์เวิร์ดเป็นไกด์ไลน์ในการทำงาน ทำให้เรามีวินัยในการจัดการตนเองด้วย
อย่างเดือนที่ 2-3 (ราวๆนี้แหละ ช่วงที่เขียนบล็อกนี้) เราได้รับงานเพิ่มจนมีเนื้อหาอัพบล็อกทุกอาทิตย์ ทำให้เรามีผลงานมากขึ้น เท่ากับเพิ่มโปรไฟล์ให้ตัวเองไปด้วย และในแง่ของผู้ติดตาม จะนิยายออนไลน์ หรือคอนเทนท์อื่นๆ ถ้ามีการอัพเดทสม่ำเสมอ คนก็พอใจ จำนวนติดตามเพิ่มขึ้นด้วย ดีกว่าแบบนานๆ ที มาอัพที (แบบเราเมื่อก่อน TwT)
หวังว่ารีวิวที่ทำมาคงเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ คน ที่มองหาช่องทางในการผลิตผลงาน และนำเสนอผลงานตัวเองให้เป็นที่รู้จักนะคะ ต่อจากนี้ก็อยู่ที่การพัฒนาของตัวเราเองแล้วล่ะ ว่าจะพาตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน
เช่น ตั้งใจว่าจะไปหาโอปป้าที่เกาหลีแล้วชาตินี้จะได้บินไปหรือไม่…หรือโอปป้าจะมีเมียเสียก่อน
ก็อยู่ที่ตัวเราแล้วล่ะค่ะ ว่าจะพาความมุ่งมั่นไปได้แค่ไหน แต่สำหรับใครที่ชอบทางนี้ แล้วอยากแลกเปลี่ยน บอกได้เลยค่ะ ว่าทาง REVU เองก็เป็นช่องทางที่ทำให้เราได้เพื่อนใหม่มาแบบงงๆ แม้ว่าจะไม่มีคอมมูนิตี้ตรงๆ (ในตอนนี้) บนเว็บไซต์ แต่แน่นอนว่า…เราสามารถแอบส่องและเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมแคมเปญผ่านทางโซเชี่ยลได้นี่นา 😀
🌙 Instagram : @Deadlydoll
🌙 Youtube : Deadlydoll Vanessa
🌙Email : deadlydollvanessa[at]gmail.com