แนะนำซีรีส์อีกแล้ว กับ Black Sails ซีรีส์ฝรั่งจากช่อง STARZ สร้างโดยอ้างอิงพล็อตจากนิยายดัง Treasure Island ของ Robert Louis Stevenson เกี่ยวกับการผจญภัยของเหล่าโจรสลัดในยุครุ่งเรือง สนุกไม่สนุกก็ทำมาถึงซีซั่น 3 กันแล้ว ไม่ลองได้ยังไง!

Black Sails เป็นซีรีส์จาก STARZ สร้างโดยมีชื่อที่เราคุ้นตา Michael Bay ร่วมด้วยช่วยกันยำกับโปรดิวเซอร์ Jonathan E. Steinberg และ Robert Levine จนมาถึงซีซั่นที่ 3 แล้ว แต่รีวิวนี้จะขอพูดถึงเฉพาะซีซั่นแรกก่อน (เพราะเพิ่งดูไปแค่นี้ แต่ก็ดูรวดเดียว 2 วันจบ)
Season 1 : 8 Episodes (2014)
Season 2 : 10 Episodes (2015)
Season 3 : 10 Episodes (2016)

สำหรับซีซั่นแรก Black Sails ยืมตัวละครจาก Treasure Island คือกัปตันฟลินท์ มาเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่อง เกี่ยวกับการตามไล่ล่าเรือหลวงของสเปนลำหนึ่งที่บรรทุกสมบัติคณานัป ชนิดเรียกได้ว่าเป็นกล่องสมบัติเคลื่อนที่ที่ใครปล้นแล้ว มีหวังสบายทั้งชาติ แต่ทว่าเบาะแสสำคัญคือตารางการเดินเรือกลับถูกฉกไปโดยนาย ซิลเวอร์ หนุ่มลึกลับสมองใสที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อครัวเพื่อจะติดตามเรือสลัดไปขึ้นฝั่ง

ความซวยบังเกิดแก่ฟลินท์ ที่ต้องเอาตัวรอดจากการเคลือบแคลงใจของลูกเรือ ทำให้เขากับสรั่งเรือ คุณเกตส์ และนายกราบเรือ บิลลี่ โบนส์ ต้องหาทางตามหาหน้าตารางนั้นกลับคืนมาให้ได้ เพื่อจะนำสมุนไปล่าสมบัติด้วยการสนับสนุนจากคุณหนูกัธรี่ นายทุนใหญ่ ท่ามกลางเหตุการณ์ที่พร้อมจะแปรปรวนพร้อมจะพลิกผันอำนาจกันตลอดเวลาบนเกาะนัสซอร์
และสุดท้ายแล้วสัจจะจะมี หรือไม่มีในหมู่โจร ต้องมาติดตามกัน

ความดีงามของเรื่องนี้คือ…การได้สนุกกับการผจญภัยแบบโจรสลัดแต๊ๆ ไม่อิงนิยาย ไม่พยายามคอเมดี้จนสุดขอบแบบ Pirates of the Caribbean ของ Disney (ที่ยิ่งดูยิ่งหน่าย เพราะดันมโนขึ้นทีละภาคๆ) เราจะได้เห็นการเอาตัวรอด การต่อสู้ การทำงาน (์?) ฉบับสลัดจริงๆ รูปแบบการรบโดยเรือสำเภา และท่าเรือกบดานที่ไม่ใช่พอร์ต รอยัล


อีกทั้งซีรีส์ยังให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับยุครุ่งเรืองของโจรสลัด ราวศตวรรษที่ 18 ที่เหล่านาวิก และพ่อค้านายทุนต่างต้องพยายามปกป้องสินค้าตัวเอง รวมถึงต้องรอยระแวงไฟสงคราม ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นอีกสิ่งที่ทรงคุณค่าสำหรับซีรีส์ชุดนี้
ส่วนในด้านความบันเทิงนั้น เมื่อคุณดูหนังโจรสลัด คุณจะได้เห็นฉากการต่อสู้แบบระเบิดเรือ ทะเลเดือดกันแน่นอน รวมถึงพล็อตเรื่องที่พร้อมจะพลิกไป พลิกมา คาดเดาได้ยากกว่าสุดท้ายเรื่องราวในแต่ละตอน ในแต่ละซีซั่นจะจบลงอย่างไร


แม้ว่าอาจจะไม่หักมุมเท่า Game of Thrones แต่ก็เล่นเอาใจหาย ใจคว่ำ ลุ้นระทึกอยู่หลายฉาก ที่ดีคือทีมงานไม่ได้ลากเอาตัวละครเด่นๆ มาตายทิ้งตายขว้างเท่า HBO และอีตาลุงมาร์ติน ทำกับ GOT แน่ๆ
ในด้านตัวละคร จัดว่าเป็นจุดขายอีกอย่างของซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ยืมมาจากนิยาย หรือประวัติศาสตร์ เช่น กัปตันฟลินท์, บิลลี่ โบนส์, ชาร์ล เวน และจอห์น ซิลเวอร์ส ต่างก็คงเสน่ห์ รวมถึงโจรสลัดสาว แอนน์ บอนนี่ และแจ๊ค เรคแฮม ซึ่งมีตัวตนเป็นที่กล่าวขวัญ ก็เหมือนจะมีจุดขายที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน แต่ส่วนตัวนั้นคิดว่าตัวบอนนี่ในซีรีส์ บทดูจะ “อ่อน” ไปหน่อยในซีซั่นแรก

ด้านบนเป็นภาพแผนผังตัวละคร ที่มีเส้นแสดงให้เห็นที่มาของตัวละครว่าตัวไหนสร้างใหม่ ตัวไหนยืมมา เราค่อนข้างที่จะชอบ และหมั่นไส้ในตัวซิลเวอร์ส แต่ที่ไม่รู้ว่ารักหรือชัง แต่ติดตามเอาใจช่วย ก็พ่อกัปตันฟลินท์นี่แหละ นอกจากนี้ตัวละครอื่นๆ ก็ยังช่วยเสริมสีสันให้เรื่องดูไม่น่าเบื่อได้เยอะ จนยากที่จะเลือกที่รักมักที่ชังได้ในซีซั่นแรก
คงต้องลองติดตามซีซั่นอื่นๆ ต่อดูว่า บทบาทของแต่ละคนจะพากันไปจุดไหน รวมถึงปริศนาหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้คลี่คลายออกในภาคแรก และก้าวต่อไปของภารกิจฟันกำไรจากทองของสเปนจะเป็นอย่างไร แนะนำให้ชมต่อค่ะ
เพราะงั้นใครที่มองหาซีรีส์ผจญภัย รักในการเดินเรือและโจรสลัด ชอบงานพีเรียด และชอบพล็อตแบบชิงไหวชิงพริบเอาตัวรอด ซีรีส์นี้เป็นตัวเลือกที่ดี แม้ว่าอาจจะเป็นรองนิยายของพ่อใหญ่มาร์ติน อย่าง Game of Thrones แต่เชื่อเถอะ…มันดีงามกว่า Pirates of the Caribbean ที่ต้องสร้างงานสไตล์โลกสวยดิสนีย์เยอะหลายขุม