ช่วงนี้ข่าวการเสียชีวิตของปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยล สืบเนื่องมาตั้งแต่อาการป่วยของเขาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (พ.ศ.2558) หลังจากการติดเชื้อไข้เลือดออก จนกระทั่งเมื่อเสียชีวิตแล้ว สิ่งที่ยังคงหลอกหลอนจะพุ่งเข้าหาจิกทึ้งร่างไร้วิญญาณนั้น คือเหล่านักข่าวที่ต่างใช้คำว่า “สื่อ” บังหน้า เพื่อเรียกร้องกระแสเรตติ้งให้กับตนเอง…
ความรู้สึกใกล้เคียงกับภาพยนตร์ที่ฉายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อ Jake Gyllenhaal เข้ามาจับกล้องรับบทนักข่าวผู้ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด ชัดที่สุด เลือดมากที่สุด นำมาเม็ดเงินที่มากที่สุดสู่ชีวิตของเขา Nightcrawler
WARNING : This section below is include a crime scene and violence. Reader discretion is strongly advised. and Spoiler include!
“คุณแม่ของผมพูดเสมอว่า ถ้าอยากจะถูกล็อตเตอรี่ คุณต้องหาเงินมาซื้อมันให้ได้ซะก่อน”
นั่นเป็นคำพูดที่เหมือนคติประจำใจของ ลู หรือ หลุยส์ บลูม (Louis Bloom) ชายหนุ่มที่กำลังถังแตก และยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา ลูเป็นชายหนุ่มที่มีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง และไม่เคยหวาดหวั่นที่จะทำผิดตั้งแต่ลักเล็กขโมยน้อย เพราะหนังเปิดฉากมาด้วยการงัดแงะตัดเหล็กจากรั้วสาธารณะไปขาย แถมยังมีหน้าโกหกและสร้างความเคลือบแคลงแก่เจ้าหน้าที่
แหม…แค่เปิดตัวมาก็แสดงสันดานดิบออกมาแบบชัดเจนแจ่มแจ้ง
ลูพยายาม “ขายตัวเอง” กับที่ทำงานสายสุจริตหลายครั้ง จนได้รับคำตอกหน้าแรงๆ ว่า “ชั้นไม่จ้างขโมยมาทำงานหรอก” จากคนที่รับซื้อเหล็กของเขาไป ช่างเป็นการเสียดสีสังคมหน้าไหว้หลังหลอกได้อย่างเจ็บแสบ คนรับซื้อของโจร ปากบอกไม่รับ แต่มือรับเข้าท้องไปแล้ว หลังจากนั้นเขาจึงมีโอกาสได้เห็นฉากอุบัติเหตุ และการเข้ามาทำงานกันช่างกระฉับกระเฉงว่องไวของนักข่าว
เขาคิดว่าเค้าค้นพบทางทำเงินมหาศาลแล้ว !!
จุดวิปริตเริ่มต้นจากตรงนี้ เมื่อเขาถูกปฏิเสธจากทีมถ่ายทำฟุตเทจข่าว ลูจึงคิดว่าเขาควรเริ่มต้นอะไรสักอย่างด้วย (ความทะเยอทะยานของ) ตัวเอง เขานำจักรยานราคาแพงไปขาย แลกกับกล้องวิดีโอ และวิทยุตำรวจ เพื่อที่จะได้ลองติดตามข่าวสารและพุ่งตัวไปถ่ายทำถึงที่เกิดเหตุ

ใกล้แค่ไหน #ถามภาพดู งานแรกของเขาเริ่มจากกล้องวิดีโอกระจอกๆตัวนึง กับข่าวแทงกันในย่านเอเชีย จัดว่าเป็นประเด็นที่ประจวบเหมาะ เขาได้ภาพที่ดีที่สุด และนำไปขายได้ราคาดี (แม้ว่าจะไม่ได้ดั่งใจนัก) แต่เขาก็เริ่มพบว่าเขามีแวว
ยิ่งทำยิ่งมันส์…ลู บลูมของเราถลำลึกไปเรื่อยๆ พร้อมกันเม็ดเงินที่มากขึ้นเรื่อยๆ เขาซื้อรถใหม่ กล้องตัวใหม่ จ้างเพื่อนร่วมทีมเพิ่ม และออกตระเวนราตรีกันเพื่อตามหาเบาะแสข่าวใหม่ๆ บางครั้งรู้จักการ Setting ฉากขึ้นมาให้ดูดีขึ้น เมื่อเขาเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ก่อนตำรวจ เขากล้าขนาดที่เคลื่อนย้ายศพซึ่งเป็นหลักฐาน เพื่อให้เขาได้ดักรอจับภาพในมุมที่ดีที่สุด
ให้ตายเถอะ! เขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นแค่หนัง หรือเกม

เมื่อความกล้าของเขาทำให้ได้รับค่าตอบแทนมหาศาล รวมถึงอำนาจต่อรอง เขาก็บ้ามากขึ้น บ้าที่จะใช้อำนาจเรียกร้องในสิ่งที่เขาต้องการ ตั้งแต่ เงินที่อยากได้ ผู้หญิง และชื่อเสียง เมื่อมีพลังเงินในมือ พลังของสื่อในมือ เขาก็ชักจูงให้โปรดิวเซอร์ข่าวไขว้เขว้และตกอยู่ภายใต้อำนาจของการกระหายข่าวที่มีพาดหัวรุนแรง สะเทือนขวัญ แบบที่ทุกบ้านจะต้องเปิดทีวีเพื่อรอติดตามตลอดเวลา
จรรยาบรรณ…มนุษยธรรม หรือจะเทียบอุตสาหกรรมที่ทำเงิน?

ความทะเยอทะยานนำลูไปไกลขนาดที่เขาพบเห็นเป็นพยานเหตุฆาตกรรม เขากลับเก็บงำความลับเรื่องใบหน้าผู้ก่อเหตุ และเลขทะเบียนรถที่ขับหนี ทั้งๆที่ทั้งหมดนั้นถูกถ่ายทำไว้อย่างชัดเจนด้วยกล้องระดับ HD
เป็นคนดีๆ ที่อื่น คงเลือกที่จะวิ่งโร่นำภาพ นำอะไรทุกสิ่งไปแจ้งความให้เร็วที่สุด แต่นอกจากจะไม่โทรขอความช่วยเหลือแล้ว นายลูก็เลือกที่จะเข้าไปถ่ายทำจุดเกิดเหตุฆาตกรรมแบบสดๆ ร้อนๆ เพื่อให้ได้ภาพถึงพริกถึงขิง แรงขนาดเรตติ้งช่องคงพุ่งกระฉูดเพราะความผวาที่ฆาตกรยังลอยนวล

เขาเก็บทุกช็อต…ทุกฉาก…ทุกร่าง และทุกหยาดหยดของเลือด พอๆกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของ FBI ยิ่งมีเลือดมากเท่าไรยิ่งดี เพราะที่เกิดเหตุคือย่านคนรวยที่มีการคุ้มกันภัยสูง แต่ก็ยังเกิดคดีฆาตกรรมยิงยกครัวได้ เพียงแค่ข่าวนี้แพร่ออกไป แม้จะเซนเซอร์ แต่ข้อความกระตุ้นเร้าที่ถูกส่งผ่านปากนักอ่านข่าว ยิ่งกระตุ้นความหวาดกลัวให้เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือเรตติ้งของช่วงข่าวที่พุ่งกระฉูดแบบหยุดไม่อยู่
ใครที่ดูหนังเรื่องนี้ มาถึงตรงนี้ คงคิดว่ามันบ้า! มันเป็นบ้ากันหมดแล้ว! ทั้งไอ้ลู บลูมคนขายคลิป ทั้งไอ้เด็กลูกสมุน ทั้งยัยโปรดิวซ์หน้าเลือด ทุกคนไม่มีใครจำคำว่าศีลธรรม จรรยากันได้อีก
หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากการฆาตกรรมให้เห็น อาจจะมีเลือดจากร่างของเหยื่อในคดีประปราย และเมื่อเทียบกับหนังทริลเลอร์อื่นๆ ถือว่าน้อยนิด แต่กลับสร้างอารมณ์หวาดผวาให้กับคนดูได้มากมาย ก็ใครกันจะคิดว่าเพื่อเงิน คนเราจะทำกันได้ขนาดนี้ ขนาดยอมเสียสละชีวิตคน เพื่อให้ได้ข่าวสาร อันนำพาซึ่งเม็ดเงิน
นี่ก็เล่ามาจนใกล้จะจบแล้ว แต่จะไม่ขอเล่าต่อ เพราะอยากให้ไปลองติดตามกันเอาเอง ว่าท้ายสุดแล้ว…ความคลั่งข่าว ความบ้าเงินและอำนาจ จะนำพาให้หลุยส์ บลูม และคนรอบข้างไปได้ถึงจุดไหน แต่ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคเด่นของบลูม

“ผมอยากจะบอกคุณว่า…หากวันไหนคุณเห็นผม นั่นจะเป็นวันที่แย่ที่สุดของคุณซะแล้วล่ะ”
บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้เสียดแทงจิตใจ และกระชากหน้ากากสังคมหน้าไหว้หลังหลอก รวมถึงแสดงความคลั่งสื่อ คลั่งอำนาจของคนทำงานสื่อแบบไร้จรรยาบรรณได้อย่างถึงพริกถึงขิง บวกกับการแสดงของ เจค กิลเลนฮาล ที่สลัดคราบเจ้าชายเปอร์เซียลุดหล่อล่ำออกไป เหลือเพียงหนุ่มขี้ก้างเจ้าของดวงตาลอกแลกลึกโหล โครงคิ้วเจ้าเล่ห์ และรอยยิ้มเย้ยหยันสุดจะไร้ความจริงใจ ทั้งหมดคือใบหน้าของมนุษยที่คุณคงไม่อยากพบเห็น รู้จักมักจี่ หรือข้องแวะใดๆ นอกจากขอประทับตราบาทาไว้สักป๊าบ!
ท้ายที่สุดนี้ ขอไว้อาลัยให้กับคุณปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ ดาราหนุ่มมากความสามารถ พ่อและสามีผู้เป็นที่รักของครอบครัว ชายผู้มีจิตใจเป็นสาธารณะช่วยเหลือผู้อื่นตลอดชีวิต แม้จะสิ้นชีวิตไปแล้ว ก็ยังคงให้ร่างกายเป็นทานแก่ผู้อื่น แม้ว่าจะมีแรงกาจิกทึ้งด้วยความกระหายเพียงไร ก็ขอให้จิตอันพิสุทธิ์นั้นยังคงอยู่ เป็นลูกแก้วคุ้มกันภัยให้กับครอบครัวที่ยังอยู่ และผู้ประสงค์ดีต่อไป

ขอให้พักผ่อนอย่างสงบนะคะ คุณปอ
RIP (23 มกราคม 2523 – 18 มกราคม 2559)
🌙 Instagram : @Deadlydoll
🌙 Youtube : Deadlydoll Vanessa
🌙Email : deadlydollvanessa[at]gmail.com